เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น
หากสืบย้อนไปในอารยธรรมของประเทศญี่ปุ่นนั้น มีเครื่องปั้นดินเผาเป็นแห่งแรกที่มีอายุประมาณ 16,000 ปี และมีเหตุการณ์สำคัญของญี่ปุ่นอยู่อีกมากมาย
คามาคูระเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่นในระยะเวลาสั้นๆ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1185-1333 ในช่วงเวลาที่เป็นเมืองหลวง เมืองนี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เมืองคามาคูระในยุคปัจจุบันมีประชากรลดลงเหลือเพียง 174,000 คน ปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่น่าดึงดูดเมืองหนึ่ง มีทั้งชายหาดและวัดต่าง ๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของเมืองที่มีชื่อเสียงในอดีต
ประเทศญี่ปุ่นไม่ค่อยมีการติดต่ดกับโลกภายนอกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1635-1852 เนื่องจากกฏหมายที่เรียกว่า นโยบายซะโกะกุ ซึ่งมีการจำกัดการค้า ชาวญี่ปุ่นถูกห้ามเดินทางไปต่างประเทศ และห้ามเผยแพร่ศาสนาคริสต์ ซึ่งการแยกตัวเป็นเวลานานของประเทศญี่ปุ่น ทำให้ประเทศมีความล้าหลังทางเทคโนโลยีเมื่อเทียบกับโลกตะวันตก และในปี ค.ศ. 1852 กองทัพสหรัฐฯก็ได้บังคับให้ญี่ปุ่นเปิดตลาด
เมื่อประเทศญี่ปุ่นเปิดประเทศตัวเองครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 1850 สถาบันที่มีศักดินาของประเทศ อย่างเช่น ซามูไรก็มีอยู่เพียงไม่กี่ปี และเหตุการณ์ที่แปลกและหาได้ยากคือ ในปี ค.ศ. 1860 มี ซามูไร 76 คนที่ถูกส่งไปยังนิวยอร์คในฐานะนักการฑูต
ประเทศญี่ปุ่นประสบปัญหากับสงครามกลางเมืองที่เรียกว่า ยุคเซ็งโงะกุหรือยุครณรัฐในระยะเวลาที่ยาวนานในช่วง ค.ศ. 1467-1603 ซึ่งส่งผลให้มีปราสาทเกิดขึ้นมาจำนวนมากและเมื่อสิ้นสุดช่วงเวลานั้น ญี่ปุ่นก็มีปราสาทมากถึง 5,000 แห่ง และในปัจจุบันมีปราสาทที่เก่าแก่นี้อยู่เพียงไม่กี่แห่งแล้ว เพราะปี ค.ศ. 1603 ญี่ปุ่นเข้าสู่ช่วงเวลาของความมั่นคงที่ยาวนานขึ้น ทำให้ปราสาทมีความสำคัญน้อยลง และใน ค.ศ.1860 ญี่ปุ่นได้ริเริ่มโครงการความทันสมัยที่จริงจัง จึงทำให้ปราสาทของญี่ปุ่นส่วนใหญ่ถูกรื้อถอนออกไป
ประเทศญี่ปุ่นเริ่มพิมพ์ภาพแกะสลักไม้ในปี ค.ศ. 1765 เทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในการผลิตนิยายที่มีภาพ ที่รู้จักกันในชื่อของ จิซะกุ ซึ่งจะมีทั้งความลึกลับ แบบที่กระตุ้นความรู้สึก แบบที่สนุกสนาน แบบล้อเลียนและเกี่ยวกับการดูหมิ่น ซึ่งเป็นตัวอย่างในรุ่นแรก ๆ ของหนังสือการ์ตูน
ในศตวรรษที่ 17 ประเทศญี่ปุ่นได้ผลิตหุ่นกลจำลองที่เรียกว่า คาราคุริ ที่มีไว้เพื่อความบันเทิง หุ่นเหล่านี้สามารถเต้นรำหรือแสดงอะไรง่าย ๆ ได้จากบทละคร เมื่อถึงศตวรรษที่ 19 คาราคุริถูกผลิตกันออกมาอีกเพื่อเสิร์ฟชาหรือยิงธนูกันอย่างกว้างขวาง
ในปี ค.ศ.1988 ในยุคของฟองสบู่ พื้นที่เศรษฐกิจย่านกินซ่าในประเทศญี่ปุ่น เป็นพื้นที่ที่ทันสมัยของกรุงโตเกียว มีราคาประมาณ 30 ล้านเยนต่อตารางเมตร
ภาพประกอบ: Unsplash