อาหารริมทางของประเทศญี่ปุ่น ตอน 2
อาหารริมทางของประเทศญี่ปุ่นมีอีกหลายอย่างที่น่ารับประทาน เพียงแค่ 1 ตอนก็คงจะไม่พอ วันนี้เราจึงมี ตอนที่ 2 ที่จะมาเพิ่มความหิวให้กับทุกคน จะมีเมนูอะไรบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!
ทาโกยากิ คือ แป้งแพนเค้กทรงกลม ๆ ที่สอดไส้ปลาหมึกโรยหน้าด้วยมายองเนสและขิงดอง
เส้นบะหมี่ที่ทำจากแป้งสาลี ใส่ด้วยหมูทอดและซอสหวาน
ปลาย่างเกลือ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปลาแมกเคอเรลที่จะย่างเสียบไม้ซึ่งจะเค็มกว่าปกติเล็กน้อย
คัสซึเตลา คือ เค้กฟองน้ำของประเทศญี่ปุ่น ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากคำในภาษาโปรตุเกส ว่า ขนมปังจากคัสตีล ซึ่งเบบี้ คัสซึเตลาเป็นเค้กในเวอร์ชั่นไซส์เล็ก ๆ ของเค้กที่ได้รับความนิยมนี้
โอเด้งถือว่าเป็นอาหารในฤดูหนาวที่มักจะมีทั้งเนื้อ ปลาและผักที่ใช้เวลาเคี่ยวในน้ำซุปเป็นเวลานาน จะให้ความอบอุ่นในวันที่หนาวเย็นได้ดี และร้านแผงลอยที่ขายโอเด้งนั้นจะมีคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ
ขนมปังที่มีใส้แกงกระหรี่ ซึ่งจะคล้าย ๆ กับเคอรี่โดนัท
เซ็มเบ คือ ข้าวเกรียบญี่ปุ่นที่มีหลายแบบ ทั้งรสหวานและรสเผ็ด ร้านแผงลอยจะนำเซ็มเบมาย่างใหม่ ๆ ซึ่งนั้นก็เป็นอีกขั้นตอนของส่วนประกอบเซ็มเบ ที่เมืองนารามีร้านขายเซ็มเบให้กับนักท่องเที่ยวที่อยากจะให้อาหารกับกวางที่มีจำนวนมาก ซึ่งการทำเช่นนี้ทำให้สัตว์ที่อยู่อย่างสงบกลับกลายเป็นสัตว์ที่วุ่นวายเพราะอยากกินเซ็มเบ
ขนมญี่ปุ่นก้อนกลม ๆ หนึบ ๆ ที่เสียบอยู่ในไม้ โดยปกติแล้วจะราดโชยุและซอสหวาน
คากิโกริ เป็นน้ำแข็งใสญี่ปุ่นที่มักจะเป็นเมนูคลาสสิคในช่วงฤดูร้อน ซึ่งจาก 50 ปีที่ผ่านมาขนมนี้ก็ถือว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก โดยปกติแล้วก็จะราดด้วยไซรัปและนมข้นด้านบน
อิชิโกะ อาเมะ คือ สตอเบอรี่ในเวอร์ชั่นของแอปเปิ้ลแคนดี้ สตอเบอรี่ของญี่ปุ่นนี้จะมีหลายขนาดที่มักจะเสียบอยู่ในไม้ อิชิโกะ อาเมะ ค่อนข้างจะหายาก แต่จะหาเจอได้ง่ายในช่วงฤดูของสตอเบอรี่เอง
เฟรนช์ฟรายดั้งเดิมของคนอเมริกัน จะเหมือนกับของประเทศญี่ปุ่นมาก
คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่า คยู รี (แตงกวา) จะช่วยให้คุณใจเย็นลง โดยที่จะเป็นแตงกวาเสียบไม้ปรุงรสกับมิโซะเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาหารที่เพอร์เฟกต์สำหรับยามค่ำคืนของฤดูร้อนเลยทีเดียว
รามูเนะ คือ เครื่องดื่มอัดลมรสมะนาว-เลมอนที่บรรจุมาในขวดแก้วน่าดื่ม มีฝาปิดอยู่ข้างบน เป็นเครื่องดื่มคลาสสิคที่มีมาตั้งแต่ปี 1876 และมีจำหน่ายทั่วไป
ภาพประกอบ: Unsplash